ในยุคที่มาตรฐานด้านสุขอนามัย ความปลอดภัย และภาพลักษณ์องค์กรกลายเป็น “ตัวชี้วัดความน่าเชื่อถือ” ของธุรกิจทุกอุตสาหกรรม การลงทุนใน บริการทำความสะอาดแบบ บิ๊กคลีนนิ่ง จึงไม่ใช่เพียงการทำความสะอาดเชิงลึกเท่านั้น แต่ยังเป็นหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญที่ช่วยยกระดับประสิทธิภาพองค์กร ลดความเสี่ยง สร้างภาพลักษณ์ด้านความสะอาด และสร้างความมั่นใจให้พนักงาน-ผู้มาติดต่อในทุกวันทำงาน
สำหรับองค์กรที่ต้องการผลลัพธ์ระดับมืออาชีพ การเลือกใช้บริการจาก บริษัททำความสะอาดครบวงจรที่มีมาตรฐานสูง เช่น ไอเอฟเอส ฟาซิลิตี้ เซอร์วิสเซส คือการลงทุนที่คุ้มค่าและส่งผลต่อคุณภาพของสถานที่ทำงานทั้งในระยะสั้นและระยะยาว
บิ๊กคลีนนิ่ง คืออะไร และต่างจากการทำความสะอาดทั่วไปอย่างไร
บิ๊กคลีนนิ่ง (Big Cleaning) คือการทำความสะอาดเชิงลึก ที่เข้าถึงทุกมุมของอาคารแบบละเอียด ตั้งแต่พื้น ผนัง เพดาน ไปจนถึงจุดอับที่ไม่สามารถทำความสะอาดได้บ่อยในกิจวัตรประจำวัน เช่น ช่องระบายอากาศ รางม่าน บริเวณหลังตู้ พื้นที่เก็บของ พื้นลานจอดรถ ทางเดิน ท่อระบายน้ำ ถังเก็บน้ำ
เป้าหมายคือการรีเซ็ตสภาพพื้นที่ให้กลับมาสะอาดหมดจดและพร้อมรองรับการใช้งานในระยะยาว

บริการทำความสะอาด บิ๊กคลีนนิ่ง เหมาะสำหรับใครบ้าง?
บริการนี้เหมาะสำหรับอาคารและธุรกิจทุกประเภท โดยเฉพาะองค์กรที่ต้องการมาตรฐานสูงด้านความสะอาด ความปลอดภัย และคุณภาพสิ่งแวดล้อม เช่น
• ออฟฟิศและสำนักงาน : ช่วยลดฝุ่น สร้างบรรยากาศที่น่าทำงาน เพิ่มประสิทธิภาพพนักงาน
• โรงงานอุตสาหกรรม : ลดความเสี่ยงต่ออุบัติเหตุหรือการปนเปื้อน
• โรงแรม ร้านอาหาร พื้นที่บริการลูกค้า : เพิ่มความประทับใจ และสร้างความเชื่อมั่นต่อผู้เข้าพักหรือผู้มาติดต่อ
• อาคารสาธารณะ โรงเรียน โรงพยาบาล : สถานที่ที่ให้ความสำคัญกับความสะอาดเป็นอันดับต้น ๆ
• อาคารที่ใช้งานมานาน : เพื่อฟื้นสภาพพื้นที่ ขจัดคราบฝังแน่น กลิ่นอับ และสิ่งสะสมต่าง ๆ
สำหรับองค์กรที่มีการตรวจประเมินมาตรฐาน HSE, GMP หรือ ISO การวางแผนงานทำความสะอาดครั้งใหญ่เป็นประจำจะช่วยรองรับการตรวจประเมินได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดความเสี่ยงจากการสะสมของฝุ่น เชื้อโรค และคราบต่าง ๆ ที่ส่งผลต่อคุณภาพผลิตภัณฑ์และความปลอดภัยของผู้ใช้งาน

ขั้นตอน Big Cleaning แบบมืออาชีพ: เริ่มต้นอย่างไร
การทำงานอย่างเป็นระบบช่วยการทำความสะอาดเชิงลึก เดินหน้าได้อย่างราบรื่นและไม่รบกวนการดำเนินงานหลักขององค์กร โดยทั่วไปจะประกอบด้วยขั้นตอนสำคัญดังนี้
การประเมินพื้นที่และการวางแผน
ทีมงานมืออาชีพจะลงสำรวจพื้นที่จริง แยกโซนงานที่มีความเสี่ยงสูง พื้นที่ที่ต้องใช้เครื่องมือพิเศษ และกำหนดระยะเวลาที่เหมาะสม จากนั้นจึงจัดทำแผนงาน กำลังคน และกำหนดช่วงเวลาทำงานให้สอดคล้องกับการปฏิบัติงานขององค์กร เช่น เลือกทำในวันหยุด เสาร์–อาทิตย์ หรือช่วงกลางคืน
การเคลียร์พื้นที่และการจัดเก็บสิ่งของ
ก่อนเริ่มงาน จะมีการเคลื่อนย้ายเฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์ที่เสี่ยงต่อความชื้นหรือการกระแทก โดยจัดเก็บอย่างเป็นระบบ มีการติดป้ายหรือบันทึกตำแหน่งเพื่อให้สามารถนำกลับไปวางได้ตรงตามเดิม ลดความสับสนและความเสียหายของทรัพย์สิน
การกำจัดฝุ่นและทำความสะอาดพื้นผิว
หลังจากเตรียมพื้นที่เสร็จ ทีมงานจะเริ่มจากการดูดฝุ่นและปัดฝุ่นในทุกระดับ ตั้งแต่เพดาน ผนัง เฟอร์นิเจอร์ ไปจนถึงพื้น เพื่อป้องกันไม่ให้ฝุ่นฟุ้งกระจายระหว่างขั้นตอนการล้างหรือขัด ช่วงนี้มักใช้อุปกรณ์ดูดฝุ่นประสิทธิภาพสูงและผ้าไมโครไฟเบอร์เพื่อลดการทิ้งรอยเช็ด
การทำความสะอาดล้ำลึก
เมื่อฝุ่นถูกกำจัดออกเป็นส่วนใหญ่แล้ว จึงเข้าสู่ขั้นตอนล้างและขัด เช่น การขัดพื้นกระเบื้อง ล้างลอกแวกซ์เก่าหรือเคลือบเงาใหม่ การทำความสะอาดกระจกภายใน–ภายนอก รวมถึงการทำความสะอาดรายละเอียดเล็ก ๆ อย่างร่องยาแนว บริเวณมุมเสา หรือโครงไฟส่องสว่าง ขั้นตอนนี้ช่วยฟื้นสภาพพื้นผิวให้กลับมาเหมือนใหม่มากที่สุด
การทำความสะอาดห้องน้ำและห้องครัว
สองพื้นที่นี้เป็นจุดที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ ทีมงานจะจัดการคราบหินปูน คราบสบู่ คราบไขมัน และกลิ่นอับให้หมดไป พร้อมทั้งใช้ผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อที่ได้รับการรับรองด้านความปลอดภัย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อปกป้องทั้งผู้ใช้งานและระบบท่อน้ำเสีย
การขจัดกลิ่นและการฟื้นฟูบรรยากาศ
เมื่อทำความสะอาดพื้นผิวเสร็จแล้ว อาจมีการปรับสภาพอากาศด้วยการระบายอากาศ เปิดระบบกรองอากาศ หรือใช้เครื่องกำจัดกลิ่นตามความเหมาะสม เพื่อให้พื้นที่กลับมามีกลิ่นสะอาดและรู้สึกโปร่งสบาย
การตรวจสอบความเรียบร้อยและการจัดเก็บ
ขั้นสุดท้ายคือการตรวจสอบคุณภาพงานโดยหัวหน้างานหรือตัวแทนลูกค้าเทียบกับ KPI / SLA ที่กำหนดไว้ เมื่อยืนยันความเรียบร้อยแล้วจึงจัดเก็บอุปกรณ์ ทำความสะอาดหน้างานอีกครั้ง และจัดวางเฟอร์นิเจอร์กลับสู่ตำแหน่งเดิม
ทำไมองค์กรควรทำ Big Cleaning
1) สุขอนามัยและความปลอดภัยของพนักงาน
การสะสมของฝุ่น เชื้อโรค หรือคราบมันบนพื้น สามารถนำไปสู่การเจ็บป่วยหรืออุบัติเหตุได้ บิ๊กคลีนนิ่ง ช่วยลดความเสี่ยงและสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย
2) ภาพลักษณ์องค์กรและประสบการณ์ผู้มาติดต่อ
พื้นที่สะอาดและเป็นระเบียบสะท้อนถึงมาตรฐานการทำงานระดับมืออาชีพ ช่วยให้ลูกค้าและคู่ค้าสร้างความเชื่อมั่นตั้งแต่ก้าวแรก
3) ลดต้นทุนซ่อมบำรุงในระยะยาว
เมื่อทำความสะอาดอย่างถูกวิธี คราบสะสมหรือความชื้นจะไม่ทำลายวัสดุหรืออุปกรณ์ ช่วยยืดอายุการใช้งานและประหยัดงบประมาณการซ่อม
4) สนับสนุนมาตรฐานด้าน HSE, GMP, ISO
องค์กรที่ต้องการผ่านการตรวจประเมินจำเป็นต้องมีพื้นที่ที่สะอาดตามเกณฑ์ ซึ่ง บิ๊กคลีนนิ่ง ช่วยยกระดับคุณภาพระบบงานได้อย่างชัดเจน
5) ลดการสะสมของฝุ่น เชื้อโรค และคราบฝังแน่น
บิ๊กคลีนนิ่ง ช่วยกำจัดจุดสะสมเชื้อโรคที่การทำความสะอาดประจำวันเข้าถึงไม่ได้ ลดโอกาสในการแพร่กระจายของเชื้อ
วิธีเลือกผู้ให้บริการ บิ๊กคลีนนิ่ง ที่องค์กรไว้ใจได้
เพื่อให้การลงทุนคุ้มค่า ควรพิจารณาเกณฑ์ต่อไปนี้ก่อนเลือกคู่ค้า
- ประสบการณ์และผลงานอ้างอิงในกลุ่มอาคารใกล้เคียงกับธุรกิจของคุณ
- จำนวนทีมงานและอุปกรณ์รองรับโครงการขนาดใหญ่ รวมถึงการใช้น้ำยาทำความสะอาดที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
- ระบบตรวจคุณภาพที่ชัดเจน มี KPI / SLA และรายงานก่อน–หลังงาน
- มาตรฐานความปลอดภัยในการทำงาน ทั้งด้านอาชีวอนามัยและการป้องกันทรัพย์สิน
- ความยืดหยุ่นด้านเวลา สามารถเข้าทำงานช่วงกลางคืนหรือวันหยุด โดยไม่รบกวนการดำเนินธุรกิจหลัก
ไอเอฟเอส ฟาซิลิตี้ เซอร์วิสเซส มีบริการทำความสะอาดที่มีประสบการณ์กว่า 40 ปี เข้ากับเทคโนโลยีด้านการดูแลอาคาร มีสาขาครอบคลุมทั่วประเทศ และทีมงานกว่า 30,000 คน สามารถออกแบบบริการเฉพาะสำหรับแต่ละอาคาร ไม่ว่าจะเป็นสำนักงาน โรงงาน หรือพื้นที่ให้บริการลูกค้า
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
Q: บิ๊กคลีนนิ่ง (Big Cleaning) คืออะไร?
A : คือการทำความสะอาดแบบเชิงลึกที่เข้าถึงทุกพื้นที่ของอาคาร เพื่อกำจัดคราบสะสม ฝุ่น เชื้อโรค และปรับสภาพพื้นที่ให้สะอาดอย่างแท้จริง
Q: ขั้นตอนสำคัญของ บิ๊กคลีนนิ่ง (Big Cleaning) มีอะไรบ้าง?
A : เริ่มจากการประเมินพื้นที่ การวางแผน การเคลียร์พื้นที่ ทำความสะอาดเชิงลึก และตรวจสอบความเรียบร้อย
Q: บิ๊กคลีนนิ่ง (Big Cleaning) ควรทำบ่อยแค่ไหน?
A : แนะนำให้ทำ ทุก 3–6 เดือน ขึ้นอยู่กับการใช้งานพื้นที่ ประเภทธุรกิจ และปริมาณผู้ใช้งาน
Q: บิ๊กคลีนนิ่ง (Big Cleaning) เหมาะกับอาคารแบบไหน?
A : เหมาะกับทุกประเภท เช่น ออฟฟิศ โรงงาน โรงแรม คลังสินค้า โรงเรียน ร้านอาหาร และพื้นที่ที่ต้องการมาตรฐานสุขอนามัยสูง
Q: ทำไมต้องเลือก บิ๊กคลีนนิ่ง (Big Cleaning) จาก ไอเอฟเอส?
A : เพราะ มีประสบการณ์กว่า 40 ปี | ให้บริการแล้วมากกว่า 2,000+ ไซต์ทั่วประเทศ | ทีมงานกว่า 30,000+ คน | ได้มาตรฐานระดับสากลด้าน Facility Management | ใช้อุปกรณ์และน้ำยาที่ปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อม | มีรายงานก่อน–หลังและระบบตรวจคุณภาพ
ไอเอฟเอส จึงเป็น “บริษัทให้บริการด้านการทำความสะอาด” ที่องค์กรชั้นนำไว้วางใจมายาวนานกว่าครึ่งศตวรรษ
หากองค์กรของคุณต้องการยกระดับมาตรฐานความสะอาดและความปลอดภัยแบบมืออาชีพ บริการ Big Cleaning จากไอเอฟเอส คือคำตอบที่ช่วยให้พื้นที่พร้อมใช้งานและรองรับการตรวจประเมินได้อย่างมั่นใจ
สามารถนัดหมายทีม ไอเอฟเอส เพื่อประเมินพื้นที่และเสนอแผน คลิก




