การปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นประเด็นสำคัญที่ทุกภาคส่วนควรร่วมมือกันลดอย่างจริงจัง อาคารสำนักงาน โรงงาน สถานประกอบการธุรกิจต่างๆ คืออีกภาคส่วนที่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั้งทางตรงและทางอ้อมที่เกิดจากการดำเนินงานของกิจการ เช่น การใช้พลังงานไฟฟ้า ระบบปรับอากาศ การจัดการขยะ รวมถึงการใช้ผลิตภัณฑ์หรืออุปกรณ์ต่างๆ อีกด้วย
ปัจจุบัน การลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผู้ประกอบธุรกิจไม่ได้เป็นเพียงแค่แนวทางในการ “อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม” แต่เป็นกลยุทธ์ในการเพิ่มความยั่งยืนและลดต้นทุนระยะยาวให้แก่ธุรกิจ ผู้ประกอบการต่างๆ จึงจำเป็นต้องปรับตัวและเตรียมพร้อม หากมีการประกาศใช้พระราชบัญญัติการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ ในอนาคตอันใกล้นี้
แนวทางการลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ในอาคาร มีอะไรบ้าง
- ปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงาน
- เปลี่ยนหลอดไฟเป็น LED ใช้พลังงานน้อยลงแต่ให้ความสว่างสูง
- ติดตั้งระบบควบคุมเครื่องปรับอากาศ ระบบสามารถประมวลผลข้อมูลและสั่งเครื่องปรับอากาศให้ทำงานอย่างเหมาะสม
- ใช้ Motion Censor ระบบเปิดปิดไฟอัตโนมัติ ช่วยประหยัดไฟในพื้นที่ ที่ไม่จำเป็นต้องเปิดไฟตลอดเวลา เช่น ห้องน้ำ หรือ โถงทางเดิน
- ใช้ฉนวนกันความร้อน เพื่อรักษาอุณหภูมิภายในอาคาร ช่วยลดการทำงานของเครื่องปรับอากาศ
- ใช้พลังงานทดแทน
- ติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์บนหลังคา ช่วยลดการใช้เชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้า ลดโลกร้อน และลดค่าไฟ
- พิจารณาเปลี่ยนรถองค์กรเป็นรถ EV เพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และก๊าซเรือนกระจก
- ลดปริมาณขยะ
- ลดการสร้างขยะ: เลือกทำงานเอกสารแบบดิจิทัล ใช้กระดาษเท่าที่จำเป็น เลี่ยงการใช้วัสดุแบบครั้งเดียวทิ้ง
- การใช้ซ้ำ: สิ่งของบางอย่างที่สามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้ เช่น ถุงพลาสติก ตลับหมึกแบบเติม หรือกระดาษเอกสารหน้าที่ใช้ไปหน้าเดียว
- แยกขยะรีไซเคิล และเลือกใช้อุปกรณ์หรือเฟอร์นิเจอร์จากวัสดุรไซเคิล เพื่อให้ประโยชน์สูงสุด
- สนับสนุนพฤติกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
- รณรงค์ให้พนักงานมีส่วนร่วมในการประหยัดพลังงาน เช่น ปิดไฟหรือเครื่องปรับอากาศในช่วงพักกลางวัน และการใช้บันไดแทนลิฟต์
- ส่งเสริมการเดินทางอย่างยั่งยืน เช่น การมีที่จอดจักรยาน สนับสนุนให้พนักงานใช้รถยนต์ไฟฟ้า และใช้ระบบขนส่งสาธารณะ
ลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์แล้ว ดีอย่างไร
- ลดต้นทุนการดำเนินงาน: การบริหารจัดการพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพสามารถลดค่าไฟฟ้าและค่าบำรุงรักษาอาคารได้อย่างมีนัยสำคัญ
- ตอบโจทย์คู่ค้าทางธุรกิจ: ปัจจุบันองค์กรต่างๆมากมาย ล้วนให้ความสำคัญกับการทำธุรกิจอย่างยั่งยืน แนวทางการบริหารธุรกิจและอาคารที่เป็นมิตรใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมจึงกลายเป็นอีกหนึ่งข้อได้เปรียบในการแข่งขันทางธุรกิจ
- สอดคล้องกับนโยบายภาครัฐ: ประเทศไทยได้มีการเริ่มร่าง “พระราชบัญญัติการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ” หรือที่เรียกว่า พ.ร.บ. โลกร้อน ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่ผู้ประกอบธุรกิจต้องรู้และปรับตัว เพื่อให้สามารถดำเนินธุรกิจได้ถูกต้องตามข้อหนดด้านสิ่งแวดล้อม
- เสริมสร้างภาพลักษณ์องค์กร: ความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นรูปธรรม แสดงถึงความมุ่งมั่นและจริงจังในการบริหารจัดการธุรกิจแบบยั่งยืนในสายตาของนักลงทุนและคู่ค้าทางธุรกิจ
ร่วมสร้างการเติบโต สู่อนาคตที่ยั่งยืน
ไอเอฟเอส ผู้ให้บริการบริหารจัดการอาคารแบบครบวงจร ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานการบริหารจัดการสิ่งอำนวยความสะดวก ISO 41001:2018 เราให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สนับสนุนและมีการจัดซื้อจัดจ้างอุปกรณ์และผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม หรือ Green Procurement บริการของเราจึงสามารถตอบโจทย์ความต้องการของคู่ค้าที่มีแนวทางการทำธุรกิจที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ต้องการลดปริมาณการปล่อยคาร์บอนฟุตพริ้นท์แบบวัดผลได้
ไอเอฟเอส เชื่อว่าการลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ในธุรกิจหรืออาคาร ไม่ได้เป็นเพียงแค่หน้าที่ แต่คือการลงทุนเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต อีกทั้งยังสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันทางธุรกิจ และช่วยลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากภาษีคาร์บอนหรือ Carbon Tax ที่กำลังจะบังคับใช้ในเร็วๆนี้
สนใจให้เราออกแบบบริการที่สนับสนุนแนวทางการทำธุรกิจแบบยั่งยืน
ติดต่อได้ที่ info@ifs-thailand.com